พัฒนาการ

เมื่อเด็กๆ รู้สึกเครียด จะฮีลใจอย่างไรดี?

stressed

ในทุกๆ วัย ก็ต้องการการฮีลใจ รับฟังและแสดงความเข้าใจ: เปิดโอกาสให้เด็กได้พูดถึงความรู้สึกและประสบการณ์ของตนเอง โดยไม่ตัดสินหรือบังคับ การรับฟังอย่างตั้งใจและแสดงความเข้าใจจะช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและได้รับการยอมรับ สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: ทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ โดยการอยู่ใกล้ชิดและให้กำลังใจ การกอดหรือสัมผัสอย่างอ่อนโยนสามารถช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น หลีกเลี่ยงการบังคับให้เล่าเรื่อง: ไม่ควรบังคับให้เด็กเล่าเรื่องซ้ำๆ หากเด็กยังไม่พร้อม ให้เวลาและพื้นที่แก่เด็กในการพูดคุยเมื่อเขาพร้อม ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยในการแสดงออก: สนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรมที่ช่วยในการแสดงออก เช่น การวาดรูป การเล่น หรือการทำกิจกรรมที่สนุกสนาน เพื่อช่วยให้เด็กระบายความรู้สึกและลดความเครียด จำกัดการเข้าถึงสื่อที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์: ลดการให้เด็กดูหรือฟังสื่อที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรง เพื่อป้องกันการกระตุ้นความกลัวและความเครียด ให้เวลาและความอดทน: การฟื้นฟูสภาพจิตใจต้องใช้เวลาและความอดทน อย่าคาดหวังให้เด็กมากเกินไป ควรให้การสนับสนุนและกำลังใจอย่างต่อเนื่อง หากเด็กมีอาการที่รุนแรงหรือยืดเยื้อ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อรับการช่วยเหลือที่เหมาะสมค่ะ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ 089-6792835 Line : @thailandcoursehub  Class at home in Bangkok บทความที่น่าสนใจ สัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกอาจมีพัฒนาการที่ล่าช้า สัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกอาจมีพัฒนาการที่ล่าช้า admin • 01/02/2025 […]

เมื่อเด็กๆ รู้สึกเครียด จะฮีลใจอย่างไรดี? Read More »

สัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกอาจมีพัฒนาการที่ล่าช้า

child development

เฝ้าสังเกตพฤกติกรรมและพัฒนาการของลูกน้อย การสังเกตพัฒนาการของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกมีพัฒนาการตามวัย หากพบสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกอาจมีพัฒนาการล่าช้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและรับคำแนะนำที่เหมาะสม สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกอาจมีพัฒนาการล่าช้า: ด้านภาษา: เมื่ออายุ 15 เดือน เด็กไม่พูดคำที่มีความหมาย ด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย: เมื่ออายุ 6 เดือน เด็กไม่สามารถพลิกตัวได้ ด้านสังคมและอารมณ์: เมื่ออายุ 2 เดือน เด็กยังไม่จ้องหน้าผู้คน ด้านการมองเห็น: เด็กมีดวงตาที่ห่างกันจนผิดปกติ หรือ ตาเหล่เข้า-ออก ด้านการได้ยิน: เด็กไม่ตอบสนองต่อเสียง ไม่ส่งเสียงอ้อแอ้ แนวทางการกระตุ้นพัฒนาการ: การพูด: พูดคุยกับลูกบ่อยๆ และใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เพื่อเสริมสร้างทักษะการสื่อสาร การเคลื่อนไหว: ให้ลูกได้เล่นและทำกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น การนั่ง การคลาน และการยืน การเข้าสังคม: ส่งเสริมให้ลูกมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น การเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม การมองเห็นและการได้ยิน: สังเกตการตอบสนองต่อสิ่งเร้า เช่น การมองตามวัตถุหรือการหันตามเสียง เพื่อประเมินพัฒนาการด้านนี้ หากพบว่าลูกมีสัญญาณดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการประเมินและรับคำแนะนำที่เหมาะสมค่ะ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ

สัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกอาจมีพัฒนาการที่ล่าช้า Read More »

วิธีดูว่าลูกของเราเป็นคน MBTI ไหน?

mbti

เข้าใจลูกผ่าน MBTI การดูว่าเด็กเป็นคนในประเภท MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมทั่วไปของลูก โดยพิจารณาจาก 4 ด้านหลักคือ Introvert (I) หรือ Extrovert (E): ลูกที่ชอบอยู่คนเดียวหรือทำกิจกรรมที่เงียบสงบอาจเป็น Introvert (I) แต่ถ้าลูกชอบเข้าสังคมและมีพลังจากการอยู่กับผู้อื่น อาจเป็น Extrovert (E) Sensing (S) หรือ Intuition (N): เด็กที่ชอบข้อมูลที่เป็นรูปธรรมและเน้นการทำตามขั้นตอนมักจะเป็น Sensing (S) ส่วนเด็กที่คิดเกี่ยวกับภาพรวมและอนาคตจะเป็น Intuition (N) Thinking (T) หรือ Feeling (F): ถ้าลูกทำการตัดสินใจตามหลักเหตุผลและความเป็นจริง อาจเป็น Thinking (T) แต่ถ้าลูกให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความสัมพันธ์กับผู้อื่น อาจเป็น Feeling (F) Judging (J) หรือ Perceiving (P): เด็กที่ชอบกิจกรรมที่มีการวางแผนและโครงสร้างชัดเจนมักเป็น Judging (J)

วิธีดูว่าลูกของเราเป็นคน MBTI ไหน? Read More »

อยากรู้ว่า ลูกชอบไปโรงเรียนไหม เช็กอย่างไรดี?

school life

หมดความกังวลเมื่อเด็กๆ ไปโรงเรียน หนึ่งในปัญหาของทุกบ้านที่มีเด็กเล็ก มักจะเป็นการไปโรงเรียน เพราะโรงเรียนคือสถาบันที่ให้การศึกษา ที่จำเป็นต้องไปทุกวัน และเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้ การเข้าสังคมและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเด็กๆทั้งสิ้น แต่หลายๆ ครั้ง เราอาจไม่แน่ใจว่า เด็กๆ ของเราชอบในโรงเรียนที่เรียนอยู่หรือไม่ เราจะมีวิธีเช็กอย่างไร มาดูกันค่ะ การเช็กว่าลูกชอบไปโรงเรียนสามารถทำได้ตามนี้: ถามลูกเกี่ยวกับโรงเรียน: พูดคุยกับลูกทุกวันเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนที่โรงเรียน เช่น การพูดถึงสิ่งที่สนุกหรือกิจกรรมที่ทำในวันนั้น ถ้าลูกสามารถเล่าเรื่องราวได้ด้วยความสนุกและมีความสุข อาจแสดงว่าลูกชอบไปโรงเรียน ดูพฤติกรรมเมื่อไปโรงเรียน: ถ้าลูกไม่มีปัญหาในการตื่นเช้าและไปโรงเรียนโดยไม่แสดงท่าทีต่อต้านมากนัก แสดงว่าอาจจะชอบไปโรงเรียน ดูสัญญาณความเครียดหรือความวิตกกังวล: ถ้าลูกมีอาการวิตกกังวลหรือร้องไห้เมื่อคิดถึงโรงเรียน แสดงว่าอาจมีปัญหาในการปรับตัว สังเกตพฤติกรรมหลังเลิกเรียน: หากลูกมีความสุขหรือรู้สึกดีหลังกลับจากโรงเรียนและไม่บ่นเกี่ยวกับการไปเรียน แสดงว่าเขาน่าจะชอบ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ 089-6792835 Line : @thailandcoursehub  Class at home in Bangkok บทความที่น่าสนใจ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า อนาคตอยากทำอาชีพอะไร? เราจะรู้ได้อย่างไรว่า อนาคตอยากทำอาชีพอะไร? admin •

อยากรู้ว่า ลูกชอบไปโรงเรียนไหม เช็กอย่างไรดี? Read More »

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า อนาคตอยากทำอาชีพอะไร?

future career

Future Career หนึ่งในคำถามยอดนิยม สำหรับเด็กๆที่เริ่มมีการเติบโตขึ้นแล้ว ก็มักจะเป็นเรื่องของอนาคตว่า.. “อนาคตเราอยากทำอาชีพอะไร” ซึ่งในประเด็นนี้นอกจากจะเกี่ยวกับความชอบ ณ ขณะนั้นแล้ว ยังรวมถึงความรู้ความสามารถของตัวเองประกอบด้วย ดังนั้น การค้นหาว่าอาชีพไหนที่เหมาะสมกับเราในอนาคตสามารถทำได้โดยการสำรวจตัวเองผ่านหลายวิธี เช่น ลองทำกิจกรรมที่สนใจ – การทดลองทำกิจกรรมหรืออาชีพต่าง ๆ ที่เราชอบจะช่วยให้เข้าใจว่าชอบทำอะไรจริง ๆ ทำแบบทดสอบอาชีพ – มีแบบทดสอบหลายแบบ เช่น แบบทดสอบอาชีพที่ช่วยให้ค้นพบลักษณะนิสัยและทักษะที่เรามี ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง – การใช้เวลาให้มากขึ้นในการคิดและสำรวจสิ่งที่เราอยากทำ ช่วยให้ค้นพบความชอบและทักษะ พิจารณาแนวทางที่ต้องการในชีวิต – เช่น ความพึงพอใจที่ได้จากการทำงาน หรือการทำงานที่ไม่เพียงแต่ให้เงิน แต่ยังช่วยให้เรามีความสุขและความสำเร็จ ด้วยการทำสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราค้นพบเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเราในอนาคตนั่นเองค่ะ ^^ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ 089-6792835 Line : @thailandcoursehub  Class at home in Bangkok บทความที่น่าสนใจ SoftSkill น่าเรียนรู้

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า อนาคตอยากทำอาชีพอะไร? Read More »

SoftSkill น่าเรียนรู้ ประจำปี 2568

soft skill 2025

Life Long Learning สำหรับปี 2568 ทักษะที่ควรเรียนรู้และพัฒนามีทั้งทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและการปรับตัวในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนี้: การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking) – ทักษะนี้สำคัญมากในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและการตัดสินใจที่ต้องใช้เหตุผล การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) – ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective Communication) – การแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดอย่างชัดเจนและตรงประเด็น ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) – การคิดนอกกรอบและหาวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใคร การบริหารจัดการอารมณ์ (Emotional Intelligence) – การเข้าใจและจัดการอารมณ์ทั้งของตัวเองและผู้อื่น การบริหารเวลา (Time Management) – การใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทักษะเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและทำงานได้ดีในยุคที่เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงมีผลกระทบต่อการทำงานและชีวิตประจำวันได้นั่นเองค่ะ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ 089-6792835 Line : @thailandcoursehub  Class at home in Bangkok บทความที่น่าสนใจ

SoftSkill น่าเรียนรู้ ประจำปี 2568 Read More »

รวมอาชีพเกี่ยวกับเกม ทั้งสนุกและสามารถสร้างรายได้สูง!

career for gaming

เมื่อความชอบ สามารถพัฒนามาเป็นอาชีพได้ ในสมัยก่อน คนมักจะติดภาพว่า “เกม” เป็นสิ่งที่เด็กๆ มักจะทำในเวลาว่าง และใช้เวลากับมันมาก จนอาจทำให้ไม่ได้โฟกัสที่หนังสือเรียนตามที่เราคาดหวังไว้ เรียกง่ายๆ ว่า มันอาจดูส่งผลเสียมากกว่าผลดีในสายตาผู้ปกครองนั่นเอง แต่ในยุคปัจจุบัน ค่านิยมได้เปลี่ยนไป โดยมองวงการเกมไปไกลกว่าแค่งานอดิเรก และมีอาชีพใหม่ๆ ในสายเกมเกิดขึ้น และยังสามารถสร้างรายได้ได้ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เลย! ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ สตรีมเมอร์ ที่เห็นได้มากที่สุดในช่วงนี้คือ สตรีมเมอร์ หรือนักแคสเกม คือการเล่น หรือแข่งเกม และทำการไลฟ์สดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดูเราเล่นนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะสามารถได้รายได้จากยอดวิวแล้ว ยังรวมถึงสปอนเซอร์ และค่าโดเนทจำนวนมากอีกด้วย นักออกแบบและพัฒนาเกม มีผู้เล่น ก็ต้องมีผู้สร้าง ซึ่งในยุคปัจจุบัน คนไทยจำนวนหนึ่ง ก็สามารถเป็นนักพัฒนาเกมที่สร้างผลงานระดับโลกมาแล้ว และได้รับรายได้จากผู้เล่นทั่วโลกได้นั่นเอง นักทดสอบระบบเกม นอกจากผู้สร้างแล้ว ก่อนจะทำการปล่อยเกมออกไปสู่สายตาผู้เล่น จะต้องมีนักทดสอบระบบเกม หรือผู้คอยเล่นก่อน เพื่อหาบัค หรือข้อผิดพลาดของเกม และสามารถแก้ไขได้ก่อนส่งออกค่ะ นักการตลาดเกม การจะทำให้เกมๆ หนึ่งมีผู้เล่นได้ นอกจากจะสนุก ยังต้องมีการโปรโมทที่เข้าถึงผู้เล่นถูกกลุ่มด้วย จึงมีอาชีพนักการตลาดเกมเพื่อดูแลจุดนี้นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายอาชีพเกี่ยวกับเกม ที่สามารถกลายเป็นอาชีพหลักและสร้างรายได้ได้ดีอีกด้วย ใครที่ชอบการเล่นเกม

รวมอาชีพเกี่ยวกับเกม ทั้งสนุกและสามารถสร้างรายได้สูง! Read More »

คอร์สเรียนสุดแปลก ศาสตร์เร้นลับ เหนือธรรมชาติ

Parapsychology

มารู้จักคอร์สเรียนสุดแปลก ที่เรียนจบแล้วได้ใบ Certificate Parapsychology หรือ ปรจิตวิทยา เป็นสาขาวิชาจิตวิทยาเฉพาะด้าน ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกินกว่าขอบเขตของความรู้และทฤษฎีทางจิตวิทยาทั่วไป หรือเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ ในปี 1969 สมาคมนักวิทยาศาสตร์ชมรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก (AAAS) ได้ประกาศรับรองฐานะของ Parapsychology ให้เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์ว่าด้วยเรื่องของจิตเหนือธรรมชาติ (Paranormal Ability) ความรู้สึกเชิงพารานอร์มอล (Paranormal Experiences) เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจมากใน Parapsychology ตัวอย่างเช่น Telepathy การอ่านความคิด หรือโทรจิต Clairvoyance การมองเห็นแบบทางประสาทสัมผัส ตาทิพย์ ญาณทิพย์ หูทิพย์ Psychokinesis การใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ นักวิจัยทางด้าน Parapsychology พยายามศึกษาและสำรวจเหตุการณ์เหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจ และสร้างความรู้ใหม่ให้กับอาณาจักรของจิตวิทยา ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็มีทั้งมหาวิทยาลัย และสถาบันที่เปิดคอร์สสอนด้านนี้โดยตรง และมีการออกใบประกาศรับรองให้อีกด้วย จะมีที่ไหนบ้างมาดูกัน 1) Lancaster University ประเทศอังกฤษ หลักสูตรปริญญาตรี สาขา Parapsychology 2) University of the West of

คอร์สเรียนสุดแปลก ศาสตร์เร้นลับ เหนือธรรมชาติ Read More »

เทคนิคการพัฒนา EQ ควบคุมอารมณ์ได้อย่างชาญฉลาด

EQ หรือ Emotional Intelligence คือความฉลาดทางอารมณ์ ที่ควรหมั่นฝึกพัฒนาทักษะการควบคุมอารมณ์ตนเองให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่เสมอ EQ หรือ Emotional Intelligence คือ ความฉลาดทางอารมณ์ คนที่มี EQ สูง จะเป็นคนที่สามารถยอมรับและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี นำไปสู่การตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ความฉลาดทางอารมณ์ไม่ได้คงที่เหมือนความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) เราจึงควรพัฒนาทักษะการควบคุมอารมณ์ตนเองให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่เสมอ รู้จักและรักในสิ่งที่ตัวเองเป็น การที่เรารู้จักในตัวตนของตัวเอง ว่าเราเป็นคนอย่างไร มีจุดแข็ง จุดอ่อนในเรื่องไหน จะทำให้สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ สถานการณ์ไหนที่เราควรหลีกเลี่ยง การรักตัวเองจะช่วยสร้างคุณค่าให้กับตัวเรา เมื่อเรามีความมั่นใจในตัวเอง ก็จะไม่มีใครมาลดทอนคุณค่าความเป็นตัวเราลงได้ ฝึกสนใจความรู้สึกของคนอื่นลองคิดและมองในมุมของผู้อื่น ถ้าเราเป็นเขาเราจะรู้สึกอย่างไร ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา และในทางกลับกัน หากเราโดนปฏิบัติแบบนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากอะไร เพื่อที่เราจะได้เข้าใจและตอบสนองได้อย่างเหมาะสม เรียนรู้ที่จะปฏิเสธให้เป็นไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธตัวเอง โดยการหักห้ามใจในการทำสิ่งที่ไม่ควรทำ การทำตามใจตนเอง หรือการปฏิเสธคนอื่น เมื่อถูกขอให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ สิ่งนี้คือการเคารพความรู้สึกตัวเอง ถ้าคำนึงถึงความเป็นเหตุเป็นผลได้ เราจะไม่รู้สึกผิดหรือรู้สึกแย่ในการปฏิเสธ ทำให้ไม่เกิดความเครียดและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ง่ายมากขึ้น อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเรามักจะเจอกับการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ เราจึงควรเรียนรู้ที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ถ้าหากเรากลัวการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เราจัดการกับการใช้ชีวิตได้ยาก หากมีการวางแผนชีวิตและมีสติเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เราจะสามารถใช้ EQ ในการจัดการปัญหากับทุกเหตุการณ์ได้แบบสบายๆ เรียนรู้จากความผิดพลาดไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด แต่เมื่อเราผิดพลาดไปแล้ว

เทคนิคการพัฒนา EQ ควบคุมอารมณ์ได้อย่างชาญฉลาด Read More »

เทคนิคการพัฒนาทักษะ Critical Thinking

Critical Thinking คือ ทักษะการคิดวิเคราะห์ หรือการคิดเชิงวิพากษ์ ทักษะนี้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยเราสามารถใช้ทักษะนี้เป็นตัวช่วยในการคิดวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความละเอียด ช่วยในการตัดสินใจ รวมไปถึงเป็นทักษะที่เอาไว้แก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน การคิดวิเคราะห์เป็นทักษะที่เราควรเรียนรู้ตลอดชีวิต การที่เราจะมีทักษะนี้ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนและพัฒนาทักษะนี้อยู่เสมอ มาดูกันว่าเทคนิคที่จะเป็นตัวช่วยในการพัฒนาทักษะ CriticalThinking มีอะไรบ้าง 1) ฝึกตัวเองให้เป็นคนช่างสงสัยพยายามตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อมีการตั้งคำถามเกิดขึ้น มักจะตามมาด้วยการหาเหตุผล พยายามตั้งคำถามที่เป็นคำถามปลายเปิด เพราะจะนำไปสู่คำตอบที่หลากหลาย ทำให้เราได้มีโอกาสในการคิดวิเคราะห์เพิ่มมากขึ้น 2) หาความรู้ใหม่ๆ เสมอ การเรียนรู้ไม่มีขอบเขตและข้อจำกัด ยิ่งเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็จะทำให้เรามีข้อมูลในสมองเพิ่มมากขึ้น เราจะสามารถนำข้อมูลต่างๆ ที่เราได้เรียนรู้มา เอามาเชื่อมโยงและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ได้อย่างมากมาย และนำไปสู่การตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ 3) คิดอย่างเป็นระบบการจัดระบบความคิดจะทำให้เรามีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น เพราะเราจะได้วางแผน จัดระเบียบให้กับสิ่งต่างๆ ที่เราจะทำ มีการจัดลำดับแบบมีขั้นตอนว่าสิ่งที่เราจะทำ ควรจะต้องเริ่มต้นจากอะไรก่อน ใช้เวลาเท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ตอบโจทย์กับชีวิตเรามากที่สุด 4) ฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดีการเป็นผู้ฟังที่ดีเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะการฟังที่ดีจะต้องฟังอย่างมีสติ ทำการวิเคราะห์ว่าผู้พูดต้องการจะสื่ออะไร และคิดว่าเราควรตอบกลับ แสดงสีหน้า ท่าทาง หรือแนะนำในรูปแบบไหนเพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้พูดอย่างแท้จริง นอกจากนี้เราสามารถฟังและคิดตามเพื่อรับรู้มุมมองใหม่ๆ จากผู้อื่นได้อีกด้วย

เทคนิคการพัฒนาทักษะ Critical Thinking Read More »