พ่อแม่

แนะนำสถานที่เล่นสงกรานต์ สำหรับเด็กๆ

songkran festival

มาเล่นน้ำดับร้อนกัน สถานที่เล่นสงกรานต์สำหรับเด็กๆ ควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย บรรยากาศสนุกสนาน และเหมาะกับช่วงอายุของเด็ก โดยมีสถานที่ยอดนิยมที่เหมาะสำหรับเด็กๆ ดังนี้ค่ะ 🏞️ สวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น เช่น สวนลุมพินี, สวนรถไฟ (สวนวชิรเบญจทัศ), สวนหลวง ร.9 มีพื้นที่กว้างขวาง เด็กๆ วิ่งเล่นได้สะดวก บางที่มีโซนเล่นน้ำแบบปลอดภัย ผู้ปกครองดูแลได้ใกล้ชิด 🛝 ศูนย์การค้าและลานกิจกรรม ห้างใหญ่ๆ เช่น Central, Mega Bangna, The Mall, Terminal 21 หลายแห่งจัดงานสงกรานต์เด็กโดยเฉพาะ เช่น โซนสาดน้ำแบบนุ่มนวล เครื่องเล่นน้ำ มีกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์ การแสดง และดนตรีสำหรับเด็ก 💦 สวนน้ำสำหรับเด็ก เช่น Fantasia Lagoon (เดอะมอลล์), Pororo Aquapark, Cartoon Network Amazone มีโซนสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย สไลเดอร์น้ำขนาดเล็ก น้ำไม่ลึก 🏘️ ชุมชนหรือหมู่บ้าน […]

แนะนำสถานที่เล่นสงกรานต์ สำหรับเด็กๆ Read More »

แผ่นดินไหวจบแล้ว…ทำไมยังเวียนหัวอยู่?

post earthquake

รับมือกับอาการหลังแผ่นดินไหว อาการเวียนหัวหลังจากแผ่นดินไหวยุติแล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับหลายคน และมีชื่อเรียกทางการว่า “Earthquake sickness” หรือ “post-earthquake dizziness” คล้ายกับอาการเมาเรือ (motion sickness) ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายยังรู้สึกเหมือนเคลื่อนไหว ทั้งที่แผ่นดินหยุดไหวไปแล้ว สาเหตุที่อาจทำให้เวียนหัวหลังแผ่นดินไหว เช่น ระบบประสาทรับความรู้สึกเสียสมดุล – หูชั้นใน (ระบบทรงตัว) ยังคงสับสนจากการเคลื่อนไหวที่ไม่คงที่ ความเครียดหรือความตกใจ – ร่างกายอาจยังหลั่งสารอะดรีนาลีน ทำให้มีอาการเหมือนจะเป็นลม ใจสั่น หรือเวียนหัว หลอนจากประสบการณ์แผ่นดินไหว – สมองยังจำการเคลื่อนไหว และ “รู้สึก” ว่าพื้นยังไหว ทั้งที่มันหยุดไปแล้ว ควรทำยังไงดี? พยายามนั่งหรือนอนพักในที่สงบ หายใจลึกๆ ช้าๆ ดื่มน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงกาแฟหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าอยู่ในที่สูงหรือรู้สึกโคลงเคลง ลองมองวัตถุที่นิ่ง เช่น ผนังหรือเสา เพื่อช่วยให้สมองปรับการทรงตัว ถ้าเวียนหัวมาก หรือมีอาการร่วมอื่น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ ตาพร่า — ควรพบแพทย์ หากอยากบอกเพิ่มเติมว่าเวียนหัวมานานแค่ไหน

แผ่นดินไหวจบแล้ว…ทำไมยังเวียนหัวอยู่? Read More »

สอนวิธีรับมือแผ่นดินไหว ให้เด็กๆ อย่างไรดี

earthquake

การเตรียมตัว จะช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขี้นได้ดี การสอนเด็กให้รับมือกับแผ่นดินไหวควรใช้วิธีที่เข้าใจง่าย สนุก และให้เด็กจดจำได้ดี ลองทำตามวิธีนี้ดูนะ 🔹 1. อธิบายให้เข้าใจว่าแผ่นดินไหวคืออะไร ใช้คำง่ายๆ เช่น “แผ่นดินไหวคือเวลาที่พื้นสั่นเหมือนตอนเราสั่นโต๊ะหรือกระโดดบนเตียง” อาจใช้วิดีโอหรือแอนิเมชันช่วยอธิบาย 🔹 2. สอนหลัก “หมอบ-กำบัง-ยึดเกาะ” (Drop, Cover, and Hold On) 💡 ทำให้เป็นเกมหรือกิจกรรมสนุกๆ เช่น “หมอบ”: ให้เด็กลองหมอบลงกับพื้นเร็วๆ “กำบัง”: ให้คลานเข้าไปใต้โต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์แข็งแรง “ยึดเกาะ”: จับขาโต๊ะหรือของแข็งไว้แน่นๆ 🔸 ถ้าอยู่กลางแจ้ง: บอกให้เด็กอยู่ห่างจากต้นไม้ เสาไฟ หรืออาคาร และหมอบลงกำบังหัว 🔸 ถ้าอยู่ในรถ: บอกให้เด็กคาดเข็มขัดนิรภัยและให้ผู้ใหญ่หยุดรถในที่ปลอดภัย 🔹 3. ฝึกซ้อมบ่อยๆ จำลองเหตุการณ์ เช่น มีเสียงเตือนภัยแล้วให้เด็กปฏิบัติตาม “หมอบ-กำบัง-ยึดเกาะ” แข่งขันกันว่าใครซ่อนตัวได้เร็วและปลอดภัยที่สุด 🔹 4. ทำ “กระเป๋าฉุกเฉิน” ร่วมกัน ให้เด็กช่วยเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน เช่น

สอนวิธีรับมือแผ่นดินไหว ให้เด็กๆ อย่างไรดี Read More »

ฝึกลูกยังไงให้สื่อสารความต้องการเก่งขึ้น?

communication

ทักษะการสื่อสารสามารถฝึกฝนได้ การฝึกลูกให้สื่อสารความต้องการเก่งขึ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก โดยสามารถทำได้หลายวิธีที่ช่วยเสริมทักษะการสื่อสารให้กับลูก เช่น ฝึกการฟังและการตอบสนอง สอนลูกให้รู้จักการฟังและตอบสนอง โดยการให้ลูกมีส่วนร่วมในการสนทนา เช่น เมื่อพูดคุยกับลูกควรให้เวลาพูดและไม่รีบตอบแทนลูก เพื่อให้ลูกมีโอกาสฝึกการแสดงออกอย่างเต็มที่ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัยของลูก โดยเลือกใช้คำที่ง่ายและตรงไปตรงมา เช่น ถามคำถามที่กระชับและชัดเจน เพื่อให้ลูกเข้าใจได้ง่าย สร้างสถานการณ์จำลอง สร้างสถานการณ์จำลองที่ลูกจะต้องใช้ทักษะการสื่อสาร เช่น การเล่นบทบาทสมมติ เช่น “หากลูกต้องการน้ำ ลูกจะพูดอย่างไร?” ซึ่งช่วยให้ลูกฝึกพูดออกมาอย่างมั่นใจ สนับสนุนการใช้คำพูดที่หลากหลาย สอนให้ลูกเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และใช้อย่างสม่ำเสมอในการสื่อสาร เช่น ถ้าลูกใช้คำว่า “หิว” ลองแนะนำให้ใช้คำว่า “อยากทานข้าว” หรือ “ท้องว่าง” เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการใช้ภาษา เป็นแบบอย่างที่ดี เด็กมักจะเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ ดังนั้น การพูดคุยอย่างมีประสิทธิภาพและการแสดงออกทางคำพูดที่ดีจะช่วยให้ลูกเรียนรู้และใช้ทักษะนี้ได้เช่นกัน สร้างโอกาสในการพูดคุย ให้ลูกมีโอกาสพูดคุยกับคนอื่นๆ เช่น เพื่อนในโรงเรียน หรือครู เพื่อให้ลูกได้ฝึกการสื่อสารในสถานการณ์ที่หลากหลาย การฝึกให้ลูกสามารถสื่อสารความต้องการได้ดีขึ้น จะต้องมีการสนับสนุนจากผู้ใหญ่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องค่ะ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ

ฝึกลูกยังไงให้สื่อสารความต้องการเก่งขึ้น? Read More »

เด็กไม่ทำการบ้าน พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี?

homework

ถ้าเด็กไม่ยอมทำการบ้าน นี่คือแนวทางที่อาจช่วยได้ หาสาเหตุที่แท้จริง: ลองพูดคุยกับเด็กเพื่อหาว่าทำไมถึงไม่ยอมทำการบ้าน บางครั้งอาจจะเป็นเพราะไม่เข้าใจบทเรียน หรือรู้สึกเครียดจากการทำการบ้านมากเกินไป สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี: พยายามจัดให้มีมุมการเรียนที่เงียบสงบและไม่มีสิ่งรบกวน ช่วยให้เด็กมีสมาธิในการทำการบ้าน แบ่งเวลาให้เหมาะสม: แนะนำให้เด็กแบ่งเวลาอย่างมีระเบียบ เช่น การทำการบ้าน 30 นาที แล้วพัก 5-10 นาที เพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อหน่าย ให้กำลังใจ: ส่งเสริมให้เด็กทำการบ้านด้วยการชมเชยเมื่อทำสำเร็จ หรือให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อกระตุ้นให้รู้สึกดีที่ทำสำเร็จ ให้ความช่วยเหลือ: ถ้าเด็กไม่เข้าใจการบ้าน ลองให้ความช่วยเหลือ หรือแนะนำแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่สามารถช่วยให้เด็กเข้าใจได้ดีขึ้น สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การสื่อสารที่ดีระหว่างผู้ปกครองและเด็กเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าพูดคุยได้ดี เด็กจะเปิดใจมากขึ้น คุณคิดว่าปัญหาหลักที่ทำให้เด็กไม่ทำการบ้านคืออะไร? มาแชร์กันได้นะคะ ^^ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ 089-6792835 Line : @thailandcoursehub  Class at home in Bangkok บทความที่น่าสนใจ ลูกโดนครูดุจนขาดความมั่นใจ พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี? ลูกโดนครูดุจนขาดความมั่นใจ

เด็กไม่ทำการบ้าน พ่อแม่ควรทำอย่างไรดี? Read More »

วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม

prepare before school start

ได้เวลาเตรียมตัวกลับไปเรียนแล้ว ใกล้เปิดเทอมเข้าไปทุกที บทความนี้จึงอยากชวนทุกคนมาเช็กลิสต์วิธีการเตรียมตัวก่อนเปิดเทอมกันค่ะ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย! ปรับเวลานอน เวลานอนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการตื่นไปโรงเรียนในตอนเปิดเทอมนั้น มีเวลาที่ชัดเจน เป็นประจำ และค่อนข้างเช้ากว่าวันหยุดทั่วไป หากไม่เตรียมตัว นอนไว เพื่อปรับนาฬิกาชีวิต อาจทำให้ร่างกายสับสนและ สมองไม่สดชื่นนั่นเองค่ะ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การดูแลสุขภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการไปโรงเรียนนั้น เด็กๆ จะต้องอยู่นอกบ้านทั้งวัน และอาจพบเจอสภาพอากาศที่หลากหลาย รวมถึงมีวิธีที่อาจต้องใช้ร่างกายเช่น วิชาพละ เพราะฉะนั้น การเตรียมร่างกายให้แข็งแรงไว้ก่อน ถือว่าจำเป็นมากๆ ค่ะ เตรียมอุปกรณ์ เครื่องเขียนให้พร้อม การเรียนนั้นแน่นอนว่าต้องใช้อุปกรณ์เครื่องเขียน รวมถึงหนังสือประจำภาคเรียนใหม่ เด็กๆ จึงควรจัดเตรียมไว้ก่อน เพื่อให้พร้อมใช้สำหรับทั้งเทอมนั่นเองค่ะ เพิ่มทักษะ เพื่อความพร้อม การเพิ่มทักษะถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับเด็กๆ เพื่อให้เข้าใจบทเรียนได้ไวขึ้น เช่น หากเด็กๆ ทราบว่าเทอมนี้จะต้องเรียนเรื่องอะไร หากมีการเตรียมทำความเข้าใจในเรื่องนั้นก่อน ก็จะช่วยให้เข้าใจบทเรียนได้ง่าย และไปไวขึ้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายสิ่งที่สามารถเตรียมได้ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน อย่างไรก็ดี ขอให้การเปิดเทอมครั้งนี้ เป็นเทอมที่ดีของทุกคนนะคะ สนใจเรียนวิชาการ ภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา

วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม Read More »

อยากให้เด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง เริ่มจากกีฬาอะไรดี?

sport

เสริมสร้างสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การเล่นกีฬานั้น สามารถเล่นได้ตั้งแต่ยังเด็กๆ ไปจนถึงวัยชรากันเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพ ได้ทั้งกายและใจ ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น โดยสำหรับในวัยเด็กแล้ว การเล่นกีฬา ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยสร้างทักษะ และพัฒนาการที่ดี เพื่อเติบโตอย่างแข็งแรงได้นั่นเอง แต่จะมีกีฬาอะไรที่เหมาะกับเด็กๆ บ้างนั้น บทความนี้จะนำเสนอมาเป็นแนวทาง ให้ลองเลือกกันค่ะ ^^ แบดมินตัน ถือเป็นกีฬาที่ไม่รุนแรง และไม่อันตราย สามารถเล่นกับครอบครัวได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สนามเพียงอย่างเดียว สามารถเล่นกันเองในสวนได้ กีฬานี้นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงแล้ว ยังฝึกทักษะการทรงตัวให้เด็กๆ ได้ดีอีกด้วยค่ะ ว่ายน้ำ กีฬายอดฮิต ที่คุณพ่อคุณแม่นิยมให้เด็กๆได้เรียนกัน เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแล้ว ยังเป็นทักษะการเอาตัวรอด เวลาไปเที่ยวสถานที่ที่มีน้ำอีกด้วย ถือเป็นการป้องกันตัวเมื่อเจออุบัติเหตุทางน้ำได้ค่ะ  บาสเกตบอล อีกหนึ่งกีฬาที่น่าสนใจคือ บาสเกตบอล เพราะการเล่นบาสมีจุดเด่นคือการโดดสปริงตัว ซึ่งเด็กๆ ที่เล่นกีฬานี้แต่เด็ก มักจะตัวสูงกว่าเพื่อนๆ และมีรูปร่างโปร่ง แข็งแรง นั่นเองค่ะ ฟุตบอล หนึ่งในกีฬาที่ฝึกการเล่นเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยม เพราะฟุตบอล จะต้องเล่นกันหลายคน มีการสื่อสารระหว่างเพื่อน การฝึกเข้าสังคม เข้าใจผู้อื่น และการใช้สมาธิอย่างสูงนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกีฬาที่เด็กๆสามารถเล่นได้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย บ้านไหนมีเวลาว่าช่วงวันหยุด

อยากให้เด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง เริ่มจากกีฬาอะไรดี? Read More »

ทำอย่างไร เมื่อลูก “เถียง”

argue kids

รับมืออย่างไร เมื่อลูกเถียง ปัญหาที่ทุกครอบครัวต้องเจอ เมื่อมีเจ้าตัวน้อย ก็คือ การที่ลูกมักจะ “เถียง” เวลาเราพยายามจะสอนหรือตักเตือนอะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เพียงแต่การตอบโต้ของเรานั้น ควรทำอย่างไรถึงจะดีนะ? และการที่เด็กๆ มีพฤติกรรมแบบนี้ เกิดจากอะไรกัน? การเถียงเกิดขึ้นได้ใน 2 ช่วงวัยหลักๆ ของเด็กๆ ที่มักพบเจอกันได้คือ ช่วงเด็กเล็ก ที่เพิ่งเรียนรู้การสื่อสารได้ไม่นาน กับช่วงก่อนเข้าวัยรุ่น โดย 2 ช่วงวัยนี้ จะมีเหตุผลในการเถียงที่แตกต่างกันออกไปค่ะ ช่วงวัยเด็กแรกเริ่มหัดสื่อสารนั้น เด็กๆ มักจะยังไม่รู้วิธีการสื่อสารมากนัก จึงอาจทำให้ไม่รู้ว่า สิ่งนี้ คือการเถียง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งการที่เขาเถียงอาจเกิดจากการเลียนแบบสื่อที่ได้เห็น หรือพฤติกรรมของเราเองก็เป็นได้ ช่วงก่อนเข้าวัยรุ่น การเถียงมักเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัย ที่ทำให้พวกเขาเกิดอาการหงุดหงิดง่าย ต้องการพื้นที่ส่วนตัว มีความต้องการชัดเจน อยากรู้อยากลอง และไม่อยากเชื่อฟังเท่าที่ควร ซึ่งวิธีการรับมือเมื่อลูกๆ เริ่มมีพฤติกรรมการ “เถียง” เกิดขึ้นนั้น อาจทำได้ดังต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างสม่ำเสมอ การเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ อย่างสม่ำเสมอ ทำให้พวกเขาสามารถจดจำ และเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองว่า การเถียงนั้น อาจไม่ใช่เรื่องที่ปกตินัก หากเราสุภาพ

ทำอย่างไร เมื่อลูก “เถียง” Read More »

Checklist นี่เราเป็นครอบครัวที่ Toxic อยู่หรือเปล่านะ!?

Toxic family checklist

รู้หรือไม่? พฤติกรรมของเราสามารถส่งต่อถึงผู้อื่นได้ เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่ถูกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ คือเรื่องการ Toxic หรือการเผลอทำพฤติกรรมที่ส่งผลลบต่อจิตใจคนรอบข้าง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในครอบครัวตัวเองนั่นเองค่ะ ซึ่งหลายครั้ง ก็เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้เจตนาให้เกิดความรู้สึกแง่ลบ แต่อาจทำไปโดยไม่ทันคิด บทความนี้จึงอยากชวนผู้อ่านมา Checklist กันอีกครั้งว่า เรากำลังเป็นครอบครัวที่ Toxic อยู่หรือไม่!? ไม่รับฟังปัญหาของอีกฝ่าย หลายครั้งที่เราอาจพลาดที่จะรับฟังปัญหาที่เด็กๆ พยายามจะบอก อาจทำให้เกิดความรู้สึกในใจขึ้นได้ว่า เด็กๆ ไม่สามารถบอกอะไรกับพ่อแม่ได้ และทำให้ฝ่ายพ่อแม่เองไม่รู้ปัญหาของเด็กๆ อีกด้วย อาจแก้ไขด้วยการถามไถ่สม่ำเสมอ ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเด็กๆ พูดคุย สร้างความสนิทสนม ให้เกิดความสบายใจนั่นเองค่ะ ไม่ให้พื้นที่ส่วนตัว หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่คือ พื้นที่ส่วนตัวนั่นเอง การมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างในบางเวลา อาจช่วยให้เกิดความสบายใจ เลือกทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้และรู้สึกผ่อนคลาย อยู่กับตัวเองมากขึ้นนั่นเอง การใช้ความรุนแรง เป็นเรื่องที่หนักหน่วงที่สุด คือการลงไม่ลงมืออย่างรุนแรง เพราะเป็นภาษากายที่ต่อให้มีการอธิบายอย่างไร ก็ยังคงสร้างบาดแผลในใจได้อยู่ดี พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะเพื่อกดดันเกินวัย หรือการใช้คำหยาบคาย การพูดทำร้ายจิตใจทางอ้อม ทั้งหมดล้วนสร้างบาดแผลในใจเด็ก อาจทำให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมและนำไปทำต่อคนอื่นๆ ต่อ ซึ่งเป็นผลเสียทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่อาจทำให้บ้านไม่ใช่เซฟโซนของเด็กๆ ผู้ปกครองต้องหมั่นเช็กสถานะความสุขในบ้าน

Checklist นี่เราเป็นครอบครัวที่ Toxic อยู่หรือเปล่านะ!? Read More »