เวิร์กชอป

มาค้นหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเด็กๆ กันค่ะ เด็กๆ ทุกคน มักจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ออกมาจากความชอบ ความสนใจ ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่หลายๆ ครั้งที่ความชอบของพวกเขา อาจถูกมองว่าแปลก และไม่ตรงตามที่ผู้ปกครองคาดหวังอยากจะให้เป็น แต่รู้หรือไม่ว่า บางครั้ง ความเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ อาจสร้างความแตกต่าง แปลกใหม่ และโอกาสใหม่ๆ ให้กับพวกเขาเมื่อโตขึ้นได้ หากผู้ปกครองหมั่นสังเกตและให้การสนับสนุน อาจทำให้พวกเขาเติบโตมาเป็นผู้ที่มีศักยภาพชั้นเยี่ยมและแตกต่างจากคนอื่นเลยก็ว่าได้ค่ะ เช่น หากรู้ว่า เด็กๆ มีพฤติกรรมชอบวาดรูปเป็นพิเศษ เมื่อว่าง หรืออยู่ใกล้ๆ กับกระดาษ ก็มักจะหยิบจับขึ้นมาวาดเสมอ ก็อาจจะสามารถเติบโตมาเป็นศิลปินที่เก่ง และมีเอกลักษณ์สูง หรือเด็กบางคนอาจจะชอบพูดรีวิวสิ่งต่างๆ ออกความเห็น หาจุดดีของสิ่งรอบข้าง ก็อาจสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นนักรีวิวที่ทำรายได้มหาศาลได้ในอนาคต แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเด็กๆ นั้นมีความชอบอะไรเป็นพิเศษหรือไม่? ลองให้เด็กๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายตั้งแต่ยังเด็ก เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยหาความชอบเฉพาะทางของเด็กๆ ได้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆ เข้ากิจกรรม ให้ลองสังเกตดูว่าเขามักจะเอ็นจอยกับการทำสิ่งใดเป็นพิเศษโดยที่เราไม่จำเป็นต้องบอกให้ทำหรือบังคับ นั่นอาจเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่ดีเลยค่ะ ไม่ว่าเด็กๆ จะชอบอะไร หรืออยากพัฒนาตัวเองไปทางใด หากได้รับการสนับสนุน เชื่อว่าพวกเขาจะต้องเติบโตไปได้ดีอย่างแน่นอนค่ะ^^ ใครที่สนใจเรียนรู้ทักษะต่างๆ ก็สามารถติดตาม Skill

มาดึงความหมองเศร้าออกจากเด็กๆ กันเถอะ วันที่ดีอาจมีบ่อยๆ แต่บางครั้งก็ต้องเผชิญหน้ากับความหมองเศร้า ความขัดใจ ไม่ว่าจะในเด็ก หรือผู้ใหญ่ก็ตาม ซึ่งเมื่อมีอาการเศร้า หรือรู้สึกไม่ดี ก็ไม่ควรปล่อยไว้นาน แล้วสะสมเป็นมลพิษทางใจ บทความนี้จึงมาขอนำเสนอไอเดียที่จะช่วยให้เด็กๆ รู้สึกสดใสขึ้นได้ ตอนที่รู้สึกไม่ดีกันค่ะ ออกไปสูดอากาศนอกบ้าน หลายๆ ครั้งความรู้สึกเศร้าก็เกิดจากการอยู่ในบ้านนานๆ ไม่มีกิจกรรมอะไรที่เพิ่มสีสันให้ชีวิต การพาเด็กๆออกไปเล่นนอกบ้าน จะช่วยให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การไปเวิร์กชอป หรือการออกไปเจอธรรมชาตินั่นเอง พาไปเจอเพื่อนๆ หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เด็กๆ รู้สึกแฮปปี้ได้มากเป็นอันดับต้นๆ คือการพาพวกเขาไปเจอเพื่อนๆ นั่นเองค่ะ ซึ่งการได้เล่นหรือทำกิจกรรมกับเพื่อน จะช่วยทำให้ลืมความเศร้าไปได้ค่ะ เบี่ยงเบนความสนใจ หากรู้ว่ากำลังรู้สึกไม่ดี ให้คุณพ่อคุณแม่ทำการเบี่ยงเบนความสนใจเด็กๆ ด้วยสิ่งอื่น อาจเป็นการชวนคุยเรื่องที่เขาสนใจ หรือพาไปดูอะไรใหม่ๆ ทำให้หลุดจากความรู้สึกนั้นได้ค่ะ ระบายออกทางศิลปะ เชื่อว่าศิลปะคือทางหนึ่งที่ช่วยให้เด็กๆ ระบายความรู้สึกออกมาได้ เหมือนได้ทำการปลดปล่อยความรู้สึกไม่ดีออกมา และยังสามารถเบี่ยงเบน สร้างสมาธิ ให้กับเด็กได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่เหมาะกับเด็กๆแต่ละคนต่างกันไป ใครที่มีวิธีดีๆ ก็สามารถนำมาแชร์กันได้เลยนะคะ ใครที่สนใจเรียนรู้ทักษะต่างๆ ก็สามารถติดตาม Skill Space ไว้ได้เลยนะคะ เพื่อให้ไม่พลาดคลาสดีๆ และ Workshop

อากาศดีๆ แบบนี้ มาหากิจกรรมทำกันเถอะ ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ถือว่าเป็นช่วงที่อากาศดีกว่าปกติ และเหมาะแก่การหากิจกรรมทำเป็นอย่างยิ่ง บทความนี้จะมานำเสนอไอเดีย 5 กิจกรรมสำหรับเด็กๆ ที่น่าทำในช่วงอากาศดีแบบนี้ค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน ชวนปลูกต้นไม้ การปลูกต้นไม้ ถือเป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กๆได้ร่วมมือกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆ และยังได้เรียนรู้วิธีการดูแล การพรวนดิน ชนิดของต้นไม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในความรู้รอบตัวที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อโลกนั่นเองค่ะ โดยการปลูกต้นไม้ส่วนมากจะทำกันกลางแจ้ง ในช่วงที่มีอากาศเย็นๆ แบบนี้จึงถือว่าเหมาะมากๆ ค่ะ เล่นกีฬากลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นตีแบด ตีเทนนิส เตะบอล หรืออื่นๆ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางกายภาพให้เด็กๆ ได้แล้ว ยังช่วยให้เด็กๆ ฝึกเล่นกีฬากันได้นานยิ่งขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ไม่ร้อนจนเกินไปนั่นเองค่ะ ขี่จักรยานที่สวนสาธารณะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุก และได้ออกกำลังกาย ได้สูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดในช่วงวันหยุดนั่นเองค่ะ การที่เราได้เข้าไปอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ จะช่วยให้เราได้รับออกซิเจนแบบเต็มที่ แถมการขี่จักรยานไปตามทาง จะช่วยให้เราได้เห็นวิวสวยๆ และใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น วาดรูปในสวน อีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุกไม่แพ้ 3 ข้อด้านบนคือ การวาดรูปในสวนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสวนที่บ้าน หรือสวนสาธารณะ เพียงเราพกอุปกรณ์ กระดาษ ดินสอ ไปดูธรรมชาติ สเก็ตช์ภาพสิ่งแวดล้อมรอบตัว อาจจะพกสีไม้ไปลงสีด้วย

Workshop vs Courses หลายๆ ครั้งที่เราจะเห็นบทเรียนเดียวกัน แต่มีสอนทั้งแบบ Workshop และเป็นการลงคอร์สที่ต้องเรียนหลายครั้ง เราควรเลือกแบบไหนดี แบบไหนเหมาะกับเรามากกว่า บทความนี้จะชวนทุกคนมาดูความต่างระหว่างสองรูปแบบการเรียนรู้กันค่ะ Workshop คือการเรียนรู้ทักษะแบบรวบรัด ระยะสั้น มักจะจบภายใน 1 วัน และเน้นการนำความรู้มาลงมือทำจริง จนได้ผลงานติดไม้ติดมือกลับบ้านนั่นเอง ซึ่งการทำ Workshop นั้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการได้ทักษะติดตัว ได้ทดลองทำสิ่งที่เรียนมาจริงๆ และมีเวลาจำกัด การลงคอร์สเรียน คือการตกลงเข้าเรียนวิชาที่สนใจ เป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วแต่ว่าคอร์สยาวหรือสั้น แต่จะเป็นการเรียนอย่างต่อเนื่องเกิน 3 ครั้งขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ เหมาะกับการที่เราต้องการรู้ลึก รู้จริง ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งต้องมีเวลาให้กับสิ่งนี้ และอยากต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคตได้จริงๆ นั่นเองค่ะ ทั้งนี้แล้ว ทั้งสองแบบก็ถือเป็นการเรียนที่น่าสนใจ และมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน หลายๆ ครั้ง ก่อนเราจะลงคอร์สยาว ก็จะเริ่มที่ Workshop ก่อน เพื่อให้ได้ทดลองภาพรวมก่อนเจาะลึก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เรียนด้วยค่ะ ใครที่สนใจเรียนรู้ทักษะต่างๆ ก็สามารถติดตาม Skill Space ไว้ได้เลยนะคะ เพื่อให้ไม่พลาดคลาสดีๆ