รวม 5 ข้อดีและข้อเสียของการเรียนแบบ Home School เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

หากจะพูดถึงการเรียนการสอนทุกคนก็จะมีภาพในหัวว่า จะต้องส่งลูกไปเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ ให้คุณครูเป็นผู้สอน และเข้าเรียนตามเวลาที่สถานศึกษากำหนด แต่ในยุคสมัยนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะการศึกษาเปิดกว้างมากขึ้น ผู้เรียนไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปเรียนในโรงเรียนแบบเดิมอีกต่อไป ซึ่งการเรียนในรูปแบบใหม่ที่เรากำลังจะพูดถึงนั่นก็คือ “Home School”

ซึ่ง Home School คือการเรียนที่ผู้เรียนสามารถเรียนอยู่ที่บ้านได้ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งทางการศึกษาที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่อยากดูแลลูกด้วยตัวเองหรือผู้เรียนที่ไม่ประสงค์เรียนในโรงเรียนแบบทั่ว ๆ ไป โดยรูปแบบการเรียน Home School จะเน้นที่ความสนใจของผู้เรียนเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถยืดหยุ่นในการเรียนได้สูงกว่าสถานศึกษาแบบปกติ

การเรียน Home School นั้น เรียนได้ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 แบบคือ เรียนแบบต้องการวุฒิการศึกษา และเรียนแบบไม่ต้องการวุฒิการศึกษา

แต่ก่อนที่จะเลือกว่าจะให้ลูกเรียนแบบไหนผู้ปกครองก็ควรศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของการเรียน Home School ว่ามีอะไรกันบ้างเพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ และวันนี้เราได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว ไปดูกันเลย !

ข้อดีของการเรียนแบบ Home School

1. สามารถเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับความถนัดของลูกได้
เป็นการเรียนการสอนที่ครอบครัวสามารถเลือกหลักสูตรการศึกษาได้
ผู้ปกครองสามารถเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับความถนัดของลูกได้แบบอิสระ ไม่ต้องเรียนวิชาตามหลักสูตรกลาง ที่อาจจะไม่ตรงกับความชอบหรือความถนัดของลูก

2. คุณพ่อคุณแม่ได้อยู่กับลูกได้มากที่สุด
พ่อแม่บางคนไม่อยากที่จะห่างลูก มีความกังวลต่าง ๆ นาน เวลาลูกไปโรงเรียน การเรียนแบบ Home School ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้อยู่กับลูกและได้เห็นพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิดที่สุด

3. เหมาะกับครอบครัวที่ไม่สะดวกในการเดินทาง
บางครอบครัวอาจจะไม่สะดวกที่จะต้องไปรับไปส่งลูกน้อยด้วยภาระหน้าที่ต่าง ๆ อีกทั้งการเดินทางยังมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลานาน หากผู้ปกครองให้ลูกเรียนแบบ Home School ก็จะประหยัดเวลาทั้งตัวผู้ปกครอง และตัวผู้เรียน

4 .เด็ก ๆ ค้นพบตัวเองได้แบบไม่มีข้อแม้หรือข้อห้าม
ความชอบของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเรียนที่บ้านนอกจากลูกจะไม่กดดันแล้วยังจะทำให้ลูกค้นพบตัวเองได้แบบไม่ใครหรืออะไรมากีดกันทางความคิด ให้อิสระกับตัวผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ผู้ปกครองก็จะได้คอยสังเกตด้วยว่าเขาชอบอะไรและไม่ชอบอะไร

5. ลดการติดโรคติดต่อหรือโรคระบาด
การเข้าไปเรียนในโรงเรียนจะต้องพบเจอผู้คนมากมาย ซึ่งเราไม่รู้ได้เลยว่าลูกของเรานั้นพบเจอใครบ้าง แล้วปลอดภัยจากโรคติดต่อหรือไม่ และยิ่งตอนนี้มีโรคระบาดอย่างโควิด 19 ก็ยิ่งต้องคำนึงถึงข้อนี้เป็นพิเศษ การเรียนที่บ้านนั้นจะช่วยลดการติดโรคติดต่อได้อย่างดีเลยทีเดียว

ข้อเสียของการเรียนแบบ Home School

1. ลูกไม่เชื่อฟังเท่าคุณครู
ความสนิทสนมระหว่างผู้ปกครองและลูกอาจทำให้เขาไม่เชื่อฟังเราเท่าคุณครู ซึ่งผู้ปกครองจะต้องหาเทคนิควิธีการทำให้ลูกเชื่อฟังแบบที่ไม่ต้องดุด่า เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อลูกเอามาก ๆ

2. เรื่องการเข้าสังคม
การเรียนแบบ Home School อยู่ที่บ้าน อาจจะทำให้เด็กๆอยู่ในอนาเขตที่ตนเองคุ้นเคย รวมถึงการเจอแต่เพียงคนที่รู้จักเท่านั้น อาจจะเป็นการปิดกั้นให้เด็กๆได้หัดเข้าสังคมเพื่อรู้จักเพื่อนใหม่ๆ พ่อแม่อาจจะต้องหมั่นหาเวลาพาเด็กๆออกไปนอกบ้าน เพื่อพบปะผู้คน หรือได้ลองเล่นกับเด็กในวัยเดียวกันได้

3. ลูกมีอิสระมากเกินไป
เพราะการเรียนแบบ Home School คือการปล่อยให้ลูกมีอิสระ ซึ่งในบางครั้งอาจจะมีมากเกินไป ผู้ปกครองก็ต้องเข้าใจและกำหนดขอบเขตความเป็นอิสระอย่างชัดเจน

4. ต้องวางหลักสูตรอย่างรอบคอบ
ผู้ปกครองจะต้องวางหลักสูตรการเรียนการสอนมาเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นว่าลูกเรียนไม่ทันเพื่อน หรือถ้าหากเลือกหลักสูตรที่ลูกไม่ชอบและไม่ถนัด อาจจะทำให้ลูกไม่อยากเรียนได้

5. ไม่เหมาะกับผู้ปกครองที่ไม่มีเวลา
เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาสำหรับการเรียน Home School เพราะฉะนั้นผู้ปกครองจะต้องมีเวลาและให้เวลากับลูกได้อย่างเต็มที่

ได้รู้ข้อดีข้อเสียแบบนี้แล้วก็คงทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านเริ่มมีคำตอบอยู่ในใจแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ถึงอย่างไร ผู้ปกครองควรที่จะสังเกตพฤติกรรมของลูกว่าเขาชื่นชอบอะไรและทำอะไรออกมาได้ดีที่สุดเพื่อวางหลักสูตรให้ถูกต้อง และอย่าลืมถามความเห็นของลูกด้วยว่าเขาต้องการอะไร เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในครั้งนี้เพื่ออนาคตที่ดีของเขาเอง

หากสนใจให้น้องๆเรียนวิชาตามหลักสูตร Home Schooling ที่บ้าน TCH มีติวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญถนัดในแต่ละวิชา ไม่ว่าจะเป็น
– วิชาเสริมพัฒนาการเด็ก
– วิชาทางด้านภาษา ทั้งไทย อังกฤษ จีน
– วิชาการทั่วไป ทั้ง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม
– ศิลปะ วาด ลงสี ปั้น ประดิษฐ์ แต่งเรื่องราว
– วิชานวัตกรรม สำหรับเด็กยุคศตวรรษที่ 21 Coding การจัดการ
– วิชาดนตรี ทั้งเปียโน ร้องเพลง กีตาร์ ไวโอลิน กลอง
– กีฬาเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย เช่น ว่ายน้ำ เทนนิส โยคะ

โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 061-9542244 หรือ 089-6792835
Line : @thailandcoursehub 

อ้างอิง
Thailand Course Hub Team