General

ชอบเล่นเกม เลือกเรียนคณะอะไรดี?

ปัจจุบันโลกของการเล่นเกมได้ถูกเปิดกว้างมากขึ้น จนถูกนำมาพัฒนาเป็นกีฬาที่ทำการแข่งขันกันระดับโลก สามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กับนักกีฬาและวงการเกม นอกจากนี้ทักษะของการเล่นเกมยังสามารถนำมาต่อยอดเป็นอาชีพต่างๆ ที่สำคัญในอนาคตได้อีก ใครที่ชื่นชอบการเล่นเกม แล้วอยากเรียนต่อด้านนี้ เตรียมตัวหาข้อมูลไว้ตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย มีคณะไหนที่น่าสนใจบ้างมาดูกัน 1) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และการออกแบบ สาขาวิชาเทคโนโลยีมีเดีย (การพัฒนาเกม) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สายอาชีพ: นักออกแบบและพัฒนาเกม นักออกแบบเทคโนโลยี ประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรมเกี่ยวกับซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ด้านเกมข้อมูลหลักสูตร: 2) คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจเกม และอีสปอร์ตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สายอาชีพ: นักบริหารจัดการทีมกีฬา E-Sport นักการตลาดธุรกิจเกม ผู้จัดการแข่งขัน นักแคสเกมข้อมูลหลักสูตร: 3) คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการออกแบบเกมมหาวิทยาลัยศิลปากร สายอาชีพ: นักออกแบบเกม นักพัฒนาโปรแกรมเกม นักออกแบบ 3D Animationข้อมูลหลักสูตร: https://ict.su.ac.th/academic/design 4) คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาพัฒนาสื่อประสม และเกม คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม สาขาวิชาเกมและสื่อเชิงโต้ตอบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สายอาชีพ: นักพัฒนาเกม นักออกแบบเว็บไซต์ นักออกแบบ UX / UI วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีเครือข่ายและระบบการพัฒนาสื่อประสมและเกมข้อมูลหลักสูตร […]

ชอบเล่นเกม เลือกเรียนคณะอะไรดี? Read More »

เทคนิคการพัฒนาทักษะ Critical Thinking

Critical Thinking คือ ทักษะการคิดวิเคราะห์ หรือการคิดเชิงวิพากษ์ ทักษะนี้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยเราสามารถใช้ทักษะนี้เป็นตัวช่วยในการคิดวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความละเอียด ช่วยในการตัดสินใจ รวมไปถึงเป็นทักษะที่เอาไว้แก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน การคิดวิเคราะห์เป็นทักษะที่เราควรเรียนรู้ตลอดชีวิต การที่เราจะมีทักษะนี้ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนและพัฒนาทักษะนี้อยู่เสมอ มาดูกันว่าเทคนิคที่จะเป็นตัวช่วยในการพัฒนาทักษะ CriticalThinking มีอะไรบ้าง 1) ฝึกตัวเองให้เป็นคนช่างสงสัยพยายามตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อมีการตั้งคำถามเกิดขึ้น มักจะตามมาด้วยการหาเหตุผล พยายามตั้งคำถามที่เป็นคำถามปลายเปิด เพราะจะนำไปสู่คำตอบที่หลากหลาย ทำให้เราได้มีโอกาสในการคิดวิเคราะห์เพิ่มมากขึ้น 2) หาความรู้ใหม่ๆ เสมอ การเรียนรู้ไม่มีขอบเขตและข้อจำกัด ยิ่งเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็จะทำให้เรามีข้อมูลในสมองเพิ่มมากขึ้น เราจะสามารถนำข้อมูลต่างๆ ที่เราได้เรียนรู้มา เอามาเชื่อมโยงและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ได้อย่างมากมาย และนำไปสู่การตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ 3) คิดอย่างเป็นระบบการจัดระบบความคิดจะทำให้เรามีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น เพราะเราจะได้วางแผน จัดระเบียบให้กับสิ่งต่างๆ ที่เราจะทำ มีการจัดลำดับแบบมีขั้นตอนว่าสิ่งที่เราจะทำ ควรจะต้องเริ่มต้นจากอะไรก่อน ใช้เวลาเท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ตอบโจทย์กับชีวิตเรามากที่สุด 4) ฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดีการเป็นผู้ฟังที่ดีเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะการฟังที่ดีจะต้องฟังอย่างมีสติ ทำการวิเคราะห์ว่าผู้พูดต้องการจะสื่ออะไร และคิดว่าเราควรตอบกลับ แสดงสีหน้า ท่าทาง หรือแนะนำในรูปแบบไหนเพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้พูดอย่างแท้จริง นอกจากนี้เราสามารถฟังและคิดตามเพื่อรับรู้มุมมองใหม่ๆ จากผู้อื่นได้อีกด้วย

เทคนิคการพัฒนาทักษะ Critical Thinking Read More »

อยากเรียนภาษาที่ 3 เลือกเรียนภาษาอะไรดี?

ยุคสมัยนี้ ภาษาเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานะทางสังคม การศึกษาหาความรู้ หรือการทำธุรกิจต่างๆ ดังนั้นภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่มีอยู่ในหลักสูตรการศึกษาพื้นฐานทั่วไปของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันมีความหลากหลายทางด้านภาษาและวัฒนธรรมเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น การที่เรียนรู้แค่ 2 ภาษา อาจจะยังไม่เพียงพอ แล้วมีภาษาอะไรที่น่าสนใจ เหมาะกับการเรียนรู้เพื่อเป็นภาษาที่3 บ้าง มาดูกันค่ะ ภาษาจีนกลางเนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก ภาษาจีนจึงเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุด เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากภาษาอังกฤษ และเป็น 1 ใน 6 ภาษา ที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติอีกด้วย การมีทักษะภาษาจีนจะช่วยให้ได้เปรียบเป็นอย่างมาก ทั้งในทางธุรกิจและการท่องเที่ยว ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ ที่ถูกใช้ใน 29 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการแฟชัน ศิลปะ ภาพยนตร์ วรรณกรรม และอาหาร ใครที่ชื่นชอบและอยากศึกษางานด้านนี้ ภาษาฝรั่งเศสเป็นอีกภาษาที่น่าสนใจมากๆ ภาษาเยอรมันประเทศเยอรมันถือเป็นประเทศเศรษฐกิจ ในอันดับต้นๆ ของทวีปยุโรป โด่งดังในเรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์ วงการอาหารอย่างไส้กรอกและเบียร์ เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของหลายๆ ประเทศ นอกจากนี้ยังมีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรม ถ้าใครอยากเดินทางไปเรียนในแถบทวีปยุโรปได้ใช้ภาษาเยอรมันแน่นอน ภาษาเกาหลีปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอิทธิพลของวัฒนธรรมเกาหลีเป็นกระแสที่มาแรงมากๆ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์เกาหลี วงการเพลงเคป็อป

อยากเรียนภาษาที่ 3 เลือกเรียนภาษาอะไรดี? Read More »

10 ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการเรียนศิลปะ

ศิลปะเป็นศาสตร์ที่ไร้ขอบเขต มีความหลากหลายและเป็นวิชาที่ใครหลายๆ คนชอบ แต่ลองมาดูกันว่า มีความเข้าใจผิดอะไรบ้าง ถ้าอยากเลือกเรียนและพัฒนาต่อยอดในวิชาศิลปะ 1) เรียนศิลปะ จบมาแล้วไส้แห้ง ไม่มีงานทำเรามักจะคุ้นตาประโยคนี้จากหนังสือการ์ตูน ที่ศิลปินในสมัยนั้นนำมาเขียนเป็นมุกตลก หรือมาจากความเชื่อของผู้ใหญ่ในสมัยก่อน แต่ความเป็นจริงแล้วในปัจจุบัน มีสายอาชีพที่เกิดจากการนำศิลปะ การออกแบบ มาสร้างเป็นรายได้และมีมูลค่าสูงมาก เช่น นักออกแบบ-ตกแต่งภายใน กราฟิกดีไซน์เนอร์ นักวาดภาพ ออกแบบสื่อ มีเดีย หรือสินค้า นักวาดภาพ NFT ในปัจจุบันมีผลงานของศิลปินไทยหน้าใหม่ที่โดดเด่นและน่าจับตาอยู่มาก อาทิ Gongkan-กันตภณ เมธีกุล, Suntur-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล, Alex face-พัชรพล แตงรื่น, และ Linecensor- เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ ที่ผลงานอยู่ในมือนักสะสมทั้งไทยและต่างประเทศระดับหลักแสนไปจนถึงล้านเลยทีเดียว 2) ศิลปะเป็นเรื่องง่ายๆถึงแม้ว่าศิลปะจะเป็นศาสตร์ที่เกิดจากความคิด จินตนาการอันไร้ขอบเขตของศิลปินผู้สร้างสรรค์ แต่ถ้าได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง จริงจังแล้ว ศิลปะเป็นวิชาที่ต้องอาศัยการฝึกฝนทักษะ และพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง เพราะมีเทคนิคหลากหลายที่เราต้องเรียนรู้ ต้องมีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัยในการเรียนมากๆ 3) คนเรียนศิลปะ คือคนสิ้นคิดมุมมองของบางคน มักจะมีแนวคิดว่า คนที่เลือกเรียนศิลปะส่วนใหญ่ คือคนที่คิดอะไรไม่ออกแล้วเลยเลือกเรียนสิ่งนี้

10 ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการเรียนศิลปะ Read More »

แนะนำ 5 แบบทดสอบ สำหรับช่วยค้นหาตัวตน

สำหรับใครที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนสายไหนหรือทำอาชีพอะไรดี ที่จะเหมาะกับความเป็นตัวเรา และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด มาลองทำแบบทดสอบเพื่อค้นหาตัวตนกัน 1) แบบทดสอบค้นหาอาชีพเป็นแบบทดสอบเพื่อดูว่าบุคลิกภาพเราเป็นแบบไหนและเหมาะกับอาชีพใด เป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือก เรียนในสาขาที่เกี่ยวข้องหรือเลือกอาชีพตามความถนัดลิงก์: https://www.set.or.th/project/caltools/www/html/find-the-career.html 2) แบบทดสอบศาสตร์ที่ถนัดเป็นแบบทดสอบที่จะวัดว่าเราเหมาะกับศาสตร์ทางด้านไหน โดดเด่นในด้านอะไร และสามารถพัฒนาต่อยอดไปเป็นอาชีพอะไรได้บ้างลิงก์: https://www.jpss.jp/th/matching/ 3) แบบทดสอบว่าคุณเหมาะที่จะเรียนคณะอะไรเป็นเกมควิซ ตอบคำถาม เพื่อวิเคราะห์ว่าตัวตนแบบเรา เหมาะที่จะเลือกเรียนสายไหนดีลิงก์: https://quiz.campus-star.com/play/53 4) แบบทดสอบด้านความคิดสร้างสรรค์เป็นแบบทดสอบวัดระดับความคิดสร้างสรรค์ มาดูว่าเรามีความสร้างสรรค์ในระดับไหน เหมาะกับคณะ สายงานที่ต้องใช้ไอเดีย หรือความคิดสร้างสรรค์หรือไม่ลิงก์: https://www.trueplookpanya.com/quiz/start/710 5) แบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTIเป็นแบบทดสอบสำหรับการหาบุคลิกภาพของตัวเอง แบ่งออกเป็นทั้งหมด 16 รูปแบบ โดยจะอธิบายว่ารูปแบบที่เราได้เป็นคนอย่างไร และทำไมถึงเลือกทำสิ่งนั้น และยังบ่งบอกถึงอาชีพที่เหมาะสมกับเราอีกด้วยลิงก์: https://www.16personalities.com/th ผลลัพธ์ของแบบทดสอบ เป็นเพียงแนวทางที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่อาจจะยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย การตัดสินใจเลือกเรียนต่อมีความจำเป็นที่เราจะต้องทบทวน ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เราเสียเวลาได้ หรือถ้ายังไม่แน่ใจจริงๆ แนะนำให้ลองเลือกเรียนพิเศษเฉพาะทางในแต่ละวิชา เพื่อดูว่าเรามีความชอบในด้านนั้นๆ จริงหรือไม่ สนใจเรียนวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กีฬา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 061-9542244 หรือ

แนะนำ 5 แบบทดสอบ สำหรับช่วยค้นหาตัวตน Read More »

10 อาชีพ ที่หุ่นยนต์ AI ทำงานแทนไม่ได้

ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น หากไม่อยากโดน AI แย่งงาน ต้องวางแผนอนาคตตั้งแต่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่า หุ่นยนต์ หรือ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น และเริ่มเห็นการปรับใช้เทคโนโลยี หุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในบางตำแหน่ง เช่น เครื่องรับบัตรจอดรถอัตโนมัติ พนักงานคอลเซนเตอร์ พนักงานเสิร์ฟ ตำแหน่งที่ต้องใช้ความแม่นยำและงานที่ทำซ้ำๆ ในอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น รวมไปถึงวงการการตลาดที่เริ่มหันมาสร้างคาแรคเตอร์ นำ AI พัฒนามาต่อยอดเป็น Influencer โปรโมทสินค้า ในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีอีกหลายตำแหน่ง ที่จะนำ AI มาทำงานแทน อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์ก็ยังคงมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ มาดูกันว่าจะมีอาชีพไหนบ้าง 1) ทนายความ ผู้พิพาษาอาชีพนี้ต้องใช้ตรรกะในการคิด วิเคราะห์ ความเป็นเหตุเป็นผล และความถูกต้อง แต่ละคดีก็จะมีความซับซ้อนที่แตกต่างกันไป มีการเจรจา ต่อรอง ตอบโต้ ดังนั้นหุ่นยนต์จึงไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้ดีเท่ากับมนุษย์ 2) จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ให้คำปรึกษาอาชีพนี้ เป็นอาชีพที่ต้องเข้าถึงจิตใจของมนุษย์ ใช้อารมณ์และความรู้สึกประกอบกับเหตุผลในการทำงานร่วมด้วย การสื่อสารที่ต้องทำให้คนไว้วางใจและสบายใจ ต้องใช้ความละเอียดอ่อนสูงมาก ทำให้หุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนตำแหน่งนี้ได้ 3) บุคลากรทางการแพทย์อาชีพที่ใช้ความแม่นยำสูง แต่เนื่องจากมนุษย์มีโครงสร้างและลักษณะที่ไม่เหมือนกัน

10 อาชีพ ที่หุ่นยนต์ AI ทำงานแทนไม่ได้ Read More »

ชอบศิลปะแต่วาดรูปไม่เก่ง ทำอย่างไรดี ?

ในโลกของศิลปะนั้น ศิลปะไม่มีคำว่าถูกหรือผิด ทุกๆ ผลงาน คือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้สร้างสรรค์ ศิลปะสามารถฝึกฝนกันได้ ยิ่งฝึกทำบ่อยๆ ก็สามารถเก่งขึ้นได้จนกลายเป็นความชำนาญ ศิลปะมีหลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะแบบเรียลลิสม์ (Realism), อิมเพรสชันนิสม์ (Impressionism),  อาร์ต นูโว (Art Nouveau), เซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism), แอ็บสแตรค (Abstract), ป๊อปอาร์ต (Pop Art), สตรีทอาร์ต (Street Art) และอื่นๆ ก่อนอื่น ลองดูจากความชอบของเราก่อน ว่าชอบงานประเภทไหน แล้วค่อยศึกษาจากพื้นฐานของงานประเภทนั้น อาจจะเริ่มต้นจากการศึกษา ลองทำตามเทคนิคต่างๆ บน Youtube หรือติดตามเพจที่เกี่ยวกับศิลปะ เพราะครีเอเตอร์มักจะแชร์ผลงาน และเทคนิคควบคู่กันไปด้วยเสมอ  เมื่อเจอแนวทางที่เราชอบชัดเจนแล้ว ก็ฝึกสร้างสรรค์ผลงานไปเรื่อยๆ เพื่อดูพัฒนาการของตัวเองว่าตรงไหนที่เรายังทำได้ไม่ค่อยดี ให้พยายามเน้นพัฒนาตรงจุดนั้น อีกวิธีที่ทำให้ประหยัดเวลาในการเรียนรู้ คือการลองไป Workshop หรือ เลือกลงคอร์สเรียนศิลปะ เพราะการเรียนกับผู้ที่เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัวโดยตรง จะทำให้ครูผู้สอน สามารถช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้ตอบโจทย์กับตัวเรามากที่สุด บางปัญหาเราอาจจะมองไม่เห็นด้วยตัวเอง ถ้ามีคนคอยช่วยไกด์ไลน์จะยิ่งทำให้เราพัฒนาได้ไวมากขึ้น ถ้าหากเรารู้ตัวแล้วว่าเราชอบอะไร

ชอบศิลปะแต่วาดรูปไม่เก่ง ทำอย่างไรดี ? Read More »

6 เทคนิคอ่านหนังสือแบบรวดเร็ว จดจำแม่นยำ

6 เทคนิคอ่านหนังสือแบบรวดเร็ว จดจำแม่นยำ เหมาะสำหรับช่วงเวลาเร่งด่วนก่อนสอบ มีเวลาเตรียมตัวน้อย 1) เริ่มจากการอ่านบทสรุปก่อนโดยปกติแล้ว หนังสือส่วนใหญ่จะมีการสรุปที่ท้ายบท เพื่อเน้นย้ำให้เราเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น เมื่ออ่านบทสรุปแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจ ให้ย้อนกลับมาอ่านเนื้อหาแบบผ่านๆ หาในสิ่งที่เราต้องการรู้ ไม่จำเป็นต้องเริ่มอ่านตั้งแต่ต้น 2) เลือกดูจากสารบัญ หรือหัวข้อการเลือกอ่านส่วนนี้ก่อน จะทำให้เราได้เห็นเนื้อหาหลักของบทเรียนทั้งหมด และการลำดับความสำคัญของเนื้อหา ทำให้เราสามารถเลือกอ่านเฉพาะเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจได้ 3) ไฮไลท์ข้อความสำคัญเราไม่สามารถจำเนื้อหาทั้งหมดได้ การไฮไลท์เฉพาะส่วนที่สำคัญ จะช่วยให้เราจดจำได้ดียิ่งขึ้น ควรไฮไลท์ในส่วนที่จำเป็นต้องจำ หรือในส่วนของบทสรุป เพื่อที่เวลาย้อนกลับมาอ่านอีกรอบ เราจะได้เห็นข้อความที่เป็นใจความสำคัญสะดุดตาก่อน แล้วภาพบริบทอื่นๆ ในบทเรียนจะตามมา 4) เขียนสรุปในรูปแบบของตัวเราเองสิ่งที่จะทำให้เราจดจำได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ คือการเขียนสรุปด้วยภาษาของเราเอง ถ้าเราเขียนสรุปเพิ่มเติมจากการไฮไลท์ในหนังสือ จะทำให้เวลาที่เรากลับมาอ่านทบทวน เราจะไม่ต้องพลิกหน้าหนังสือไปมา สามารถอ่านจากที่เราสรุปไว้ได้เลย ช่วยประหยัดเวลาได้มาก 5) ช่วยกันติวกับเพื่อนการพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อน จะช่วยให้เราได้ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ว่าสิ่งที่เราเข้าใจถูกต้องหรือไม่ หรือถ้ามีส่วนไหนที่ถูกข้ามไป ก็จะสามารถเพิ่มเติมข้อมูลลงไปได้ แต่ละคนก็มักจะมีเทคนิคการอ่านสรุปแตกต่างกันไป เราก็จะได้เรียนรู้วิธีการใหม่ๆ จากมุมมองของเพื่อนด้วย 6) ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากการอ่านหนังสือแล้ว เราสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อประกอบกับการอ่านหนังสือ ลองอ่านเนื้อหาที่ผู้เขียนคนอื่นได้ทำการสรุปไว้ ก็จะทำให้มีตัวอย่างหลากหลายมากขึ้น หลังจากนั้นก็นำเนื้อหาทั้งหมดมาสรุปรวมกันในรูปแบบของเราเองอีกทีก็ได้เช่นกัน

6 เทคนิคอ่านหนังสือแบบรวดเร็ว จดจำแม่นยำ Read More »

เทคนิคการเลือกใช้ปากกาสี เพื่อช่วยกระตุ้นความจำ

สีเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ของมนุษย์ และส่งผลต่อความรู้สึก เมื่อเรามีความรู้สึกต่อสิ่งใด เรามักจะจดจำภาพของสิ่งนั้นๆ สีจึงมีอิทธิพลต่อการจดจำและการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันจึงมีการนำสีมาทำเป็นสัญลักษณ์ เพื่อแทนความหมายของสิ่งต่างๆ รวมไปถึงการใช้ปากกาสีสำหรับจดโน้ต หรือไฮไลท์ข้อความเวลาอ่านหนังสือ เพื่อช่วยในการจดจำอีกด้วย มาลองดูกันว่า ปากกาสีแต่ละสีมีหลักการใช้งาน ที่ช่วยกระตุ้นความจำอย่างไรบ้าง สีแดง ช่วยกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือด ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ เหมาะสำหรับการจดหัวข้อสิ่งสำคัญที่สุด บทสรุป ข้อความที่ต้องการเน้น เห็นแล้วสะดุดตา สีเขียว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มองเห็นแล้วสบายตา ทำให้เราจดจ่อกับข้อความได้นาน เหมาะสำหรับข้อความที่เป็นคำอธิบาย หรือข้อความที่ต้องการกลับมาทบทวนซ้ำ สีส้ม หรือสีเหลือง เป็นสีที่ดูสดใส สดชื่น ทำให้มีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับข้อความที่แสดงตัวอย่าง ประโยคที่ต้องวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ทำให้เห็นภาพชัดมากขึ้น สีม่วง หรือสีชมพู มีพลังในการกระตุ้นสมองเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ทำให้สมองโลดแล่น เหมาะสำหรับข้อความที่เป็นคีย์เวิร์ด ข้อความที่เรามักจะจำไม่ค่อยได้ หรือใช้กับข้อความที่เป็นไอเดีย สีฟ้า ให้ความรู้สึก สงบ ปลอดโปร่ง สบายตา โทนสีคล้ายๆ กับสีเขียว เหมาะสำหรับข้อความในส่วนของเนื้อหา ที่มีความยาว หรือข้อมูลเยอะ สีฟ้าจะช่วยเน้นในการจดจำผ่านสายตาได้ดี การเขียนหรือจดด้วยตัวเองจะทำให้เราจำส่วนที่ตัวเองบันทึก ได้ดีกว่าการไฮไลท์บนข้อความ

เทคนิคการเลือกใช้ปากกาสี เพื่อช่วยกระตุ้นความจำ Read More »

ฝึกพัฒนาการสมอง ด้วยการทำสิ่งที่ไม่ถนัด

การทำงานของระบบร่างกายเรา ถูกสั่งการด้วยสมอง ทำอย่างไร เราจะสามารถฝึกฝนเพื่อพัฒนาสมองของเราได้บ้าง อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้น การทำงานภายในระบบร่างกายของเรานั้นถูกสั่งการด้วยสมอง คนเรามักจะคุ้นชินกับการทำอะไรรูปแบบเดิมๆ โดยการทำในสิ่งที่เราถนัดนั้น สมองของเราจะถูกกระตุ้นเพียงข้างเดียว สมองและกล้ามเนื้ออีกข้างจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เราควรจะต้องฝึกสมองทั้งสองข้างให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ  สมองซีกซ้าย เป็นส่วนของการตัดสินใจ การใช้เหตุผล ตรรกะ การคิดวิเคราะห์ การคำนวน ทักษะภาษา โดยควบคุมมือข้างขวา สมองซีกขวา เป็นส่วนของความคิดสร้างสรรค์ การใช้อารมณ์ สุนทรียศาสตร์ที่ประกอบไปด้วย ความสามารถด้านศิลปะ ดนตรี ความจำ โดยควบคุมมือข้างซ้าย เราสามารถลองเริ่มจากสิ่งง่ายๆ ใกล้ตัวที่เราสามารถเริ่มทำได้เป็นประจำ เพื่อฝึกสมองทั้งสองข้าง เช่น ฝึกการนับเลขถอยหลัง ฝึกการเขียน-วาดรูป โดยใช้มือข้างที่ไม่ถนัด ลองสลับมือจับช้อนส้อม และตะเกียบ การลองปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเดิมๆ ของตัวเอง ลดความจำเจ พยายามลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็จะช่วยฝึกฝนสมองให้พัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น เช่น หากเป็นคนที่ถนัดด้านวิชาการ ลองหากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ อย่างการเรียนศิลปะ ดนตรี จัดดอกไม้ เพิ่มเติม อาจลองทำกิจกรรมที่มีความท้าทาย เช่น เล่นกีฬา Extreme เป็นต้น

ฝึกพัฒนาการสมอง ด้วยการทำสิ่งที่ไม่ถนัด Read More »